หลักการในการเลือกใช้ Sensor

เราขอแนะนำหลักการในการเลือกใช้ Sensor ดังนี้

Sensor นับว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญในควบคุมลำดับต้น ๆ เช่น ใช้ในการตรวจจับวัตถุ ในงานควบคุมคุณภาพของสินค้า การตรวจ เช็คระดับของเหลว เป็นต้น

ฉะนั้นในการเลือกใช้ Sensor ให้เหมาะกับงาน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพ สูงสุดจึงเป็นเรื่องสำคัญ บทความนี้ทาง บริษัท ในเครือ ฟอน ขอเสนอหลักการในการเลือกใช้ Sensor ดังนี้

 

วิธีเลือก Sensor

1) ขนาดของวัตถุ

เซนเซอร์ที่เลือกใช้ในการตรวจจับวัตถุ ควรมีเส้นผ่าศูนย์กลางของลำแสง ขนาดพอเหมาะกับวัตถุ

หากวัตถุมีขนาดเล็ก กว่าลำแสงอาจใช้ แผ่นจำกัดแสง เพื่อทำให้สามารถตรวจจับวัตถุได้ดีขึ้น

2 ชนิดของวัตถุตรวจจับ

ในการตรวจจับวัตถุ ในงาน Sensor สามารถที่แบ่งชนิดของวัตถุได้ดังนี้

2.1 วัตถุโปร่งแสง เช่น ขวดแก้วใส ในการนำ Sensor มาประยุกต์ใช้ จะไม่นำ Sensor ที่ใช้แบบตัวรับ-ส่งมาใช้

หลักการในการเลือกใช้ Sensor

Sensor ที่ใช้ในการวัด วัตถุโปร่งใส

2.2 วัตถุแบบมันวาว: นิยม ใช้ Sensor ที่มีลำแสง แบบ Polarized light Beam

วัตถุแบบมันวาว: นิยม ใช้ Sensor ที่มีลำแสง แบบ Polarized light Beam

Sensor ที่ใช้ในการวัด วัตถุแบบมันวาว

3 สีและผิวของวัตถุตรวจจับ

แบบตัวรับ-ตัวส่งแยกกัน จะไม่ได้รับผลกระทบจากสีและผิวของวัตถุตรวจจับ แบบจำกัดระยะการสะท้อน ใช้การตรวจจับจากระยะ ไม่ใช่จากความเข้มแสงที่ได้รับ จึงไม่ได้รับผลกระทบจากสีและผิวของวัตถุตรวจจับ

4 ความเร็วในการเคลื่อนที่ของวัตถุตรวจจับ

5 การตรวจสอบว่า Perponse Time ของเซนเซอร์ไวกว่าความเร็วของวัตถุ

6 สภาพแวดล้อมในบริเวณที่จะใช้งาน

oในงานตรวจจับที่มี ละอองน้ำ หรือ ความชื้น เซนเซอร์ที่ใช้ ควรป้องกันน้ำและความชื้น ควรเลือกใช้เซนเซอร์ ที่สามารถป้องกันน้ำและความชื้นได้ โดยดูจากมาตรฐานการป้องกัน IP66 หรือ IP67

oถ้าใช้เซนเซอร์แบบไฟเบอร์ออฟติกควรระมัดระวังไม่ให้น้ำมันหรือของเหลวมา เกาะที่หัวไฟเบอร์ออฟติกซึ่งอาจทำให้ระดับความเข้มของแสงลดลงได้

7 ระยะทางการตรวจจับ

ไกลที่สุด: แบบตัวรับ-ตัวส่งแยกกัน (Through-beam)

ไกลที่สุด: แบบตัวรับ-ตัวส่งแยกกัน (Through-beam)

ปานกลาง: แบบมีแผ่นสะท้อน (Retro reflective)

ปานกลาง: แบบมีแผ่นสะท้อน (Retro reflective)

ใกล้ที่สุด: แบบตรวจจับวัตถุโดยตรง (Diffuse-reflective)

        ใกล้ที่สุด: แบบตรวจจับวัตถุโดยตรง (Diffuse-reflective)

8 การติดตั้งบนชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว

ใช้สายไฟเบอร์แบบ Bundle หรือ Multi-Core ที่มีความยืดหยุ่นสูงกว่าไฟเบอร์แบบธรรมดา (Single Core)

สายไฟเซ็นเซอร์

9 แรงดันอินพุทที่ใช้ คือ ค่าของกระแสไฟฟ้าที่จ่ายให้กับ Sensor

10 ค่าเอาท์พุท เอาท์พุตของอุปกรณ์เซนเซอร์ คือ จะมีแบบปกติเปิดและปกติปิดในเซนเซอร์เพียงตัวเดียว

เอาท์พุต แบบ NPN: เอาท์พุตประกอบไปด้วย ขาคอเลคเตอร์เปิดและขาอิมิตเตอร์ที่ต่อกับกราวด์และโหลดจะต่อระหว่างขาคอ ลเลคเตอร์และแหล่งจ่ายไฟขาบวก

เอาท์พุตแบบ PNP: เอาท์พุตประกอบไปด้วย ขาคอเลคเตอร์เปิดและขาอิมิตเตอร์ที่ต่อแหล่งจ่ายไฟขาบวกและโหลดจะต่อระหว่าง ขาคอเลคเตอร์และกราวด์

อ้างอิง
http://www.kmitl.ac.th
http://www.keyence.co.th/products/sensors/photoelectric
http://www.compomax.co.th/products/sensors/